หยุดคิดลบ ปลุกพลังบวกในตัวคุณ !!

How To Stop Negative Thoughts From Getting You Down

ในแต่ละวัน เรามีเรื่องต่างๆเข้ามามากมายให้ได้คิดกันอยู่ตลอดเวลา ซึ่งความคิดส่วนใหญ่ที่วนอยู่ในหัว มักจะเป็นความคิดทางลบ ที่อาจเกิดมาจากความกังวล ความกลัว หรือความกดดันต่างๆ ความคิดแย่ๆเหล่านี้ ถ้าติดอยู่กับเราไปนานๆ จะกลายเป็นนิสัยที่ยากจะแก้ไขได้ 

การเอาชนะความคิดฟุ้งซ่านหรือมองโลกในแง่ร้าย ไม่ใช่เรื่องยากเกินไป เพียงแต่ต้องใช้ความพยายามอย่างสม่ำเสมอ การหมั่นคิดบวกทีละนิดในแต่ละวัน จะช่วยให้คุณลืมคิดถึงเรื่องแย่ๆได้อย่างดีทีเดียว

เว็บไซต์ Happify ให้ข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับความคิดแง่ลบของคนเราไว้ว่า 85% ของสิ่งที่เรากังวลกันนั้น ผลมักจะออกมาในทางที่ดีหรือกลางๆ ไม่ได้แย่อย่างที่คุณกังวล และ 80% สามารถจัดการกับปัญหาของตัวเองได้ดีกว่าที่คาดไว้

เพราะฉะนั้น อย่าคิดมากจนเกินไป ความคิดกังวลในแง่ร้ายของคนเราเป็นเรื่องปกติ แต่การคิดเรื่องใดๆวนไปวนมาในหัวซ้ำๆ เท่ากับเป็นการเพิ่มความกดดัน และสร้างความรู้สึกหดหู่ให้ตัวเอง แทนที่จะคิดวิตกกังวล เราควรคิดหาทางออก หาสาเหตุที่ทำให้เกิดความวิตกเหล่านั้น หัดโต้แย้งความคิดแย่ๆที่เกิดขึ้น เป็นการให้กำลังใจในตัวเอง รวมถึงคิดหาทางป้องกัน เรื่องต่างๆที่คุณกลัวหรือกังวลเพื่อไม่ให้เกิดขึ้น   

ฝึกวิธีคิดบวก ด้วยการรู้ทันและยอมรับถึงปัญหาที่เกิดขึ้น บอกกับตัวเองเสมอว่าทุกอย่างมันจะผ่านไปและดีขึ้น หมั่นทำสมาธิ ฝึกการหายใจอยู่กับปัจจุบัน เพื่อให้จิตใจสงบไม่คิดฟุ้งซ่าน สามารถดำเนินชีวิตต่อไปได้อย่างมีความสุข

Happify ได้สรุปวิธีจัดการกับความคิดแย่ๆในตัวเอง 6 ข้อง่ายๆ มาไว้ให้ลองไปฝึกปฏิบัติกันดูค่ะ

1. เดิน เดิน เดิน- ออกไปสูดอากาศ ปลดปล่อยความเครียดออกไปซะบ้าง

2. ฝึกโยคะ- เป็นการฝึกทั้งสมาธิ และบริหารร่างกาย ช่วยให้จิตใจสงบ

3. ออกกำลังกาย- บริหารร่างกาย ให้ร่างกายได้ตื่นตัว

4. ฟังเพลง- ฟังเพลงที่มีจังหวะเพื่อให้จิตใจและร่างกายได้ผ่อนคลาย

5. ทำงานอดิเรก-หากิจกรรม/สิ่งอื่นที่ชอบทำ เพื่อจะได้ไม่เสียเวลาไปกับการคิดฟุ้งซ่าน 

6. จัดตารางเวลาให้กับความคิดฟุ้งซ่านทางลบ- ในเมื่อเลิกคิดเลิกกังวลในบางเรื่องไม่ได้ ก็ควรจะใช้เวลากับมันให้น้อยที่สุดในแต่ละวัน

การฝึกตัวเองให้เอาชนะความทุกข์ใจ ความกังวลต่างๆนั้น ต้องใช้เวลา ความอดทน และการเห็นคุณค่าในตัวคุณเองจึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการเอาชนะปัญหาต่างๆได้

ขอบคุณข้อมูลจากเว็บไชต์ Lifehack