LightBlog

The Secrets To Reading Faster And Absorbing Information Better สำหรับใครที่มีหนังสือกองโตที่จะต้องอ่านให้จบ หรืออยากฝึกทักษะการอ่า...

เคล็ดลับอ่านเร็ว แถมช่วยจำได้ดีกว่าเดิม (Part 1/2)

The Secrets To Reading Faster And Absorbing Information Better


สำหรับใครที่มีหนังสือกองโตที่จะต้องอ่านให้จบ หรืออยากฝึกทักษะการอ่านให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น Guests Study มีเทคนิคง่ายๆ 8 ข้อที่จะช่วยให้คุณอ่านได้เร็วและยังจดจำเนื้อหาได้ดีอีกด้วยมาฝากกันค่ะ

1. อ่านบทสรุปก่อนเป็นอันดับแรก (Read the conclusion first)
หนังสือหลายๆเล่มมักจะยังไม่เผยข้อมูล/ เนื้อหาสำคัญในบทแรกๆของหนังสือ บางครั้งก็ทำให้ผู้อ่านวางและหยุดอ่านหนังสือนั้นไปเลย ดังนั้น เริ่มอ่านกันที่หน้าท้ายๆกันก่อนเลยค่ะ เพราะจะเป็นบทสรุปของเนื้อหา โดยเฉพาะบทส่งท้าย (Epilogue) เป็นส่วนสำคัญที่สุด ซึ่งจะสรุปประเด็นสำคัญทั้งหมดของหนังสือเอาไว้ ทำให้เราเข้าใจเนื้อหาได้ดีขึ้น  

2. ใช้ปากกาเน้นข้อความ (Use a highlighter)
มีหลายคนที่ไม่ชอบใช้ปากกาเน้นข้อความ และบางคนก็ใช้มากจนเกินไป ซึ่งจริงๆแล้วการใช้ปากกาเน้นข้อความเป็นตัวช่วยที่ดีมากในการอ่าน เพียงแต่ต้องใช้ให้ถูกวิธี ไม่จำเป็นต้องเน้นข้อความในทุกหน้า หรือทุก50หน้า  ใช้เน้นเฉพาะใจความสำคัญ โดย 4-5หน้าอาจมีเนื้อหาสำคัญหนึ่งประเด็น ก็เลือกเน้นข้อความสำคัญนั้นไว้ เพื่อที่เวลากลับมาอ่านทบทวนอีกครั้ง จะช่วยให้จดจำข้อมูลสำคัญเหล่านั้นได้เร็วขึ้น

3. อ่านสารบัญ/ หัวเรื่องย่อย (Use the table of contents and subheadings)
อีกเทคนิคที่หลายคนอาจแปลกใจ คือเราไม่จำเป็นต้องอ่านหนังสือทุกหน้า แต่ไปที่สารบัญก่อน จากนั้นจึงเลือกอ่านบทที่มีเนื้อหาที่เราสนใจ หรือต้องการทราบเท่านั้น วิธีนี้จะทำให้การอ่านไม่น่าเบื่อ และไม่ทำให้พลาดใจความสำคัญของเนื้อหา เพราะผู้เขียนมักจะกล่าวซ้ำๆในประเด็นสำคัญอยู่แล้วในแต่ละบท 

4. เป็นผู้เลือก ไม่ใช่ผู้รับ(Be proactive instead of reactive)
การอ่านที่มีประสิทธิภาพคือคุณต้องมีความกระตือรือร้น มีแรงจูงใจในการรับข้อมูลนั้นๆ เหมือนที่ได้บอกไว้ข้อที่แล้วว่าเราควรเลือกอ่านในสิ่งที่เราสนใจ อย่าพยายามบังคับตัวเองให้อ่านในสิ่งที่เราไม่ได้อยากรู้ ลองหาสิ่งที่น่าสนใจของเนื้อหาในหนังสือ ข้ามเนื้อหาที่คุณไม่ต้องการไปบ้าง เพราะการอ่านไม่ใช่เรื่องสนุกสำหรับคนทั่วไป การสร้างแรงจูงใจในการอ่านของตัวเองก่อนจึงสำคัญไม่แพ้กัน 

ติดตามเคล็ดลับการอ่านอีก 4ข้อ พรุ่งนี้นะคะ

ขอบคุณข้อมูลจาก Lifehack

0 comments: