"ดิกชันนารีต้นไม้เคลื่อนที่"
เดิมทีแล้วผมเคยคิดอยากเรียนแพทย์ เรียนเภสัช เพราะชอบวิชาชีววิทยา จนกระทั่งมีโอกาสได้ไปเข้าค่ายหมอถึง 3ครั้ง ทำให้ผมรู้ว่ามันไม่ใช่ตัวเราเลย การเป็นหมอคงไม่เหมาะกับเรา เลยคิดว่าเราน่าจะเลือกเรียนในสิ่งที่เรามีความชอบเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว จึงเลือกมาเรียนที่คณะวิทยาศาสตร์ ภาควิชาพฤกษศาสตร์ ในที่สุด
ด้วยความรู้สึกผูกพันกับมหาวิทยาลัยมหิดล ตั้งแต่ตอนที่เข้าค่ายวิทยาศาสตร์ที่นี่ ทำให้ผมรู้สึกชอบสถาบันนี้มาก เลยมุ่งมั่นที่จะสอบเข้าเรียนที่มหิดล ซึ่งพอผมได้เข้ามาเรียนที่นี่แล้ว ก็ยิ่งทำให้มั่นใจเลยว่าเราเลือกไม่ผิดจริงๆ เพราะนอกจากการเรียนรู้ในห้องเรียนแล้ว ยังได้เข้าร่วมกิจกรรมต่างๆของคณะและมหาวิทยาลัยในทุกกิจกรรม เช่น ชมรมอนุรักษ์ ทำธงวันมหิดล และกลุ่มสลึง ทำให้ได้รู้จักคนมากขึ้น ได้ประสบการณ์ดีๆ ที่มีค่ามากสำหรับผม
จากการสั่งสมความรู้เรื่องต้นไม้ เดินงานเกษตรแฟร์มาแล้วทุกซอกทุกมุมตั้งแต่มัธยมต้น กลายเป็นผู้รอบรู้เรื่องต้นไม้ และพืชพรรณธรรมชาติ ใครมีคำถามหรือสงสัยอะไรเกี่ยวกับพืชพรรณต้นไม้ต่างๆ ก็จะต้องนึกถึงคุณเต้ จนเพื่อนๆตั้งฉายาให้เป็น "ดิกชันนารีต้นไม้เคลื่อนที่" เลยทีเดียว
บทบาทหน้าที่ของนักวิจัยทางพฤกษศาสตร์
นอกจากการหาชื่อพันธุ์พืชต้นไม้ ว่ามีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่าอะไร มีประโยชน์อะไรบ้าง การเป็นนักวิจัยทางด้านพฤกษศาสตร์ยังมีหน้าที่หลักๆอยู่ 3 ส่วนด้วยกันคือ 1) การเก็บข้อมูลเกี่ยวกับพืชพันธุ์ต้นไม้จากแปลงตัวอย่างถาวร 2) คำนวน/ประมวลผลข้อมูล และ 3) สรุปและประเมินผลการเปลี่ยนแปลงของต้นไม้ โดยผลการวิจัยของแต่ละแปลงตัวอย่าง จะสามารถนำมาวิเคราะห์ได้ถึงความสัมพันธ์และความแตกต่างของการเจริญเติบโตของต้นไม้แต่ละชนิดกับพื้นที่ปลูกที่แตกต่างกัน
การเข้าป่าเก็บข้อมูลจากแปลงตัวอย่างถาวรเป็นงานประจำของนักวิจัยครับ แปลงตัวอย่างถาวรจะมีขนาดพื้นที่120x120 ตารางเมตร ถือเป็นตัวแทนป่าไม้ของไทย ซึ่งผมจะดูแลในส่วนป่าเต็งลัง ป่าเบญจพรรณ โดยทำการตรวจและเก็บข้อมูลการเจริญเติบโตของต้นไม้ในแปลงอย่างน้อยเดือนละครั้งด้วยการวัดขนาดเส้นรอบวง ความสูง การออกดอกออกผล ระดับอุณหภูมิและความชื้น แล้วนำข้อมูลต่างๆเหล่านี้ไปบันทึกจัดเก็บเป็นฐานข้อมูล ซึ่งจะมีการเข้าป่าจัดเก็บข้อมูลใหญ่อย่างละเอียดปีละครั้งเพื่อนำไปประเมินผลในเชิงเศรษฐศาสตร์สิ่งแวดล้อม
เด็ดดอกไม้ดอกเดียว สะเทือนถึงดวงจันทร์
ฐานข้อมูลที่เราทำการจัดเก็บ นอกจะนำมาประเมินความเปลี่ยนแปลง ความอุดมสมบูรณ์และลักษณะสภาพอากาศแล้ว ยังสามารถนำไปใช้อธิบายในเชิงเศรษศาสตร์ ดูทิศทางการใช้ทรัพยากรของคนในประเทศ วิเคราะห์ประเมินถึงแนวโน้มของปัญหาที่อาจเกิดขึ้น เพื่อจะได้ร่วมมือกันคิดหาทางแก้ปัญหา เพราะระบบนิเวศแต่ละส่วนล้วนส่งผลกระทบถึงกันและกันการทำลายไส้เดือนเพียงตัวเดียวนั้น อาจส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศมากกว่าที่เราคิด เหมือนกับการเด็ดดอกไม้ดอกเดียว ก็อาจสะเทือนถึงดวงจันทร์
ทรัพยากรธรรมชาติเป็นสิ่งสำคัญ และมีอยู่อย่างจำกัด ในฐานะนักวิจัยทางพฤกษศาสตร์ ผมก็ได้มีโอกาสไปให้ความรู้แก่ชาวบ้านในเรื่องการดูแลการจัดการป่าและต้นไม้ ให้ตระหนักถึงประโยชน์ของป่าในหลายๆด้าน ไม่ใช่เพียงแค่หาประโยชน์จากการหาของป่ามาขายเท่านั้น
งานที่อุทิศเพื่อส่วนรวม
การเป็นนักวิจัยทางพฤกษศาสตร์ อย่างที่รู้ว่าต้องทำงานอยู่ในป่าค่อนข้างลำบาก ไม่ได้มีความสะดวกสบายและต้องเจอกับแมลงต่างๆมากมาย ผมว่าใครที่อยากจะเข้ามาทำอาชีพนี้ สิ่งสำคัญที่สุดคือต้องมีใจรักมากๆ การทำงานต้องใช้ความอดทน เข้มแข็ง และอ่อนโยนไปด้วยในขณะเดียวกัน เพราะต้นไม้พืชพันธุ์ต่างๆต้องดูแลอย่างทะนุถนอม การทำงานอาชีพนี้ เปรียบเสมือนการปิดทองหลังพระ เป็นงานที่คอยดูแลระบบนิเวศเพื่อให้ทุกคนได้ใช้ชีวิตเป็นปกติสุขและมีทรัพยากรใช้กันอย่างเพียงพอ
ธรรมชาติมีชีวิต
ผมอยากให้ทุกคนคิดถึงส่วนรวมเวลาไปเดินป่าอยากให้เล็งเห็นถึงคุณค่าของสิ่งเล็กๆน้อยๆ ไม่ใช่เพียงแค่การได้เข้าไปเก็บภาพสวยๆเท่านั้น เพราะการถ่ายภาพในบางจุดที่คุณต้องเหยียบย่ำต้นไม้เล็กๆเข้าไปนั้น สามารถส่งผลต่อระบบนิเวศได้ทั้งระบบ
ธรรมชาติไม่เพียงมีชีวิต แต่ยังสำคัญต่อการดำรงชีวิตของเราทุกคนเช่นกัน
ธรรมชาติไม่เพียงมีชีวิต แต่ยังสำคัญต่อการดำรงชีวิตของเราทุกคนเช่นกัน
0 comments: